วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

optical storage

Optical Stoage - CD
53311


CD มีจุดเริ่มต้นในปี 1978 โดยมีบริษัทฟิลิปส์ (Philips) และ โซนี่ (Sony) ร่วมมือกันในการผลิตคอมแพคดิสก์สำหรับบันทึกเสียง โดยในปี 1982 ได้มีการกำหนดมาตรฐานของซีดีรวมทั้งรายละเอียดของการบันทึกเสียง เช่นวิธีการอ่าน และขนาดของซีดี โดยกำหนดแผ่นดิกส์เป็น 5 นิ้ว ที่กำหนด 5 นิ้วเพราะว่าแผ่นขนาดนี้สามารถบรรจุซิมโฟนี่หมายเลข 9 ของบีโธเฟนได้ ในปี 1970 ทั้งสองบริษัทได้มีการกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมในการใช้เทคโนโลยีของซีดีกับ คอมพิวเตอร์ ทำให้มีการพัฒนาซีดีรอมที่พวกเราได้ใช้กับคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน


CD จัดเป็นแผ่นบันทึกข้อมูลรูปแบบหนึ่ง โดยใ้ช้เทคโนโลยีเลเซอร์สีแดงที่มีความยาวคลื่่นแสง 780 nm (nanometer) ซึ่งมักจะไว้ใช้งานทางด้าน Multimedia เช่น ภาพ และเสียง โดยส่วนใหญ่ีมีวัตถุประสงค์ในการบันทึกข้อมูลเื่พื่อการบันเทิง และใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งตัองใช้เนื้อที่ในการเก็บมากกว่า 50 MB ดังนั้นแล้ว จึงจำเป็นที่ข้อมูลเหล่านี้ต้องอาศัยการจัดเก็บไว้ในแผ่นซีดี


ในปัจจุบันเครื่่องอ่านซีดีรอมจะมีราคาถูกลงอย่างมากจึงทำให้กลายเป็น อุปกรณ์ และสื่อที่ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใช้ในการบันทึกข้อมูล และซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เพื่่อจำหน่ายให้กับลูกค้าเนื่องจากความจุที่มากกว่าและราคาทีถูกกว่า


โดยปกติจะจำแนกแผ่นซีดีออกเป็น 3 ชนิดคือ


CD-ROM (Compact Disc Read Only Memory - ไม่สามารถลบข้อมูลได้) มักใช้ในการบันทึกเพื่อเผยแพร่สำหรับฐานข้อมูลขนาดใหญ่และปริมาณมาก ๆ เช่น พจนานุกรม และโปรแกรมสำเร็จรูปต่าง ๆ เป็นต้น

CD-R (CD –Recordable - สามารถเขียน แต่ไม่สามารถลบข้อมูลได้) มักใช้ในการบันทึกข้อมูลถาวร เช่นการบันทึกเพลง เป็นต้น

CD-RW (CD-Rewritable - สามารถอ่าน เขียนและลบข้อมูลได้) โดยมากมักใช้ในการบันทึกและแก้ไขงานนำเสนอสื่อประสมต่าง ๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น